เสี่ยเจียง แถลง จา พนม ยื่นโนติสยกเลิกสัญญา

4 Sep

เสี่ยเจียง แถลง จา พนม ยื่นโนติสยกเลิกสัญญา
‘เสี่ยเจียง’ พร้อม 2 กุนซือใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์แอ๊คชั่น ‘ปรัชญา ปิ่นแก้ว’ และ’พันนา ฤทธิไกร’ เปิดแถลงข่าวกรณี จา พนม ยื่นโนติกเลิกสัญญา

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. เสี่ยเจียง หรือ สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ประธานกรรมการบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พร้อม ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ต้มยำกุ้ง 1 – 2 และ พันนา ฤทธิไกร ผู้ออกแบบคิวบู๊ของภาพยนตร์เรื่อง ต้มยำกุ้ง 1 – 2 และองค์บาก ทุกภาค เปิดบ้านใบโพธิ์แถลงข่าวกรณีของ จา พนม ยีรัมย์ หลังจากที่ทางสหมงคลฯ ได้เคยแถลงข่าวไปว่า ทางสหมงคลฯ จะเป็นผู้ดูแล จา พนม เฉพาะภาพยนตร์ไทยเท่านั้น และให้ จา พนม รับงานโฆษณาหรืองานภาพยนตร์ต่างประเทศได้เอง หลังจากนั้นมาไม่นาน ทาง จา พนม ได้ส่งหนังสือมายังบริษัทฯ ว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับข้องหรือมีสัญญาใดๆ กับทางสหมงคลฯ แล้ว ซึ่ง เสี่ยเจียง ได้เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับ ปรัชญา ปิ่นแก้ว และ พันนา ฤทธิไกร ว่า

“ก่อนอื่นต้องขอบใจที่ทุกคนมาในงานแถลงข่าวในวันนี้ เรื่องเกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่เราได้แถลงข่าวไป แล้วมันมีการเปลี่ยนแปลง กลัวผู้สื่อข่าวจะเข้าใจผิด ซึ่งทางผู้สื่อข่าว คงได้ยินว่า ผมยอมให้ คุณจา ไปเล่นหนังต่างประเทศตามที่เป็นข่าว แต่เค้าไม่ได้มาขอผม ผมให้เค้าเล่นเอง ให้เค้าไปเล่นเพื่อให้สร้างชื่อเสียงของประเทศชาติ เป็นเรื่องที่ดี เป็นผลดีกับเรา แต่หลังจากเราแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา อีกวันต่อมาทาง จา พนม ได้ยื่นโนติสมาหาผมว่า ผมไม่มีสัญญากับเค้าแล้ว เค้าไม่ได้อยู่ภายใต้สัญญาเรา เค้าว่าเรื่องงานทั้งหมดไม่เกี่ยวกับผม เมื่อเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นมา ผมเลยต้องเปิดแถลงข่าวในวันนี้  เพื่อให้ทุกคนรู้ว่า ผมไม่ได้พูดจากลับไปกลับมา วันนี้ผมก็ยังยืนยันว่า ผมดีใจที่เค้าไปเล่นหนังต่างประเทศ แต่วันนี้ผมต้องปฏิบัติตามสัญญา แล้วคุณจะไปเล่นหนังต่างประเทศ ก็ต้องให้ทางต่างประเทศติดต่อมา เจรจามาทางเราให้ถูกต้องตามสัญญา ผมไม่ได้หวังจะได้เปอร์เซ็นต์จาก คุณจา ที่จะได้รับเงินจากเมืองนอก ทางบริษัทไม่เคยกินเปอร์เซ็นต์ใคร บริษัทเราเป็นบริษัททำหนัง เราไม่เคยหักเปอร์เซ็นต์ใคร ปรัชญา พันนา ก็รู้ เรา 3 คนที่อยู่นี้ อยู่ในสัญญาและทำความเข้าใจกันอย่างถูกต้อง เราต้องการจะบอกให้ทุกคนทราบว่า บริษัทไม่ได้ว่าอะไรคุณ

จา คุณไปเล่นหนังต่างประเทศได้ แต่คุณต้องให้ทางต่างประเทศติดต่อหาเรา ให้ได้มีการพูดคุยหรือทราบรายละเอียดต่างๆ เพราะมันเป็นเรื่องของสัญญา ถ้าเค้าไม่ติดต่อมา เราก็จะต้องส่งโนติสไปที่ต่างประเทศแค่นั้นเอง ที่แถลงข่าวในวันนี้ เพื่อทำความตกลงและทำความเข้าใจกับทุกคนไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจเราผิด และคิดว่าผมพูดจากลับกลอก”

ทำไมจาต้องมาขออนุญาตเสี่ย ทั้งๆ ที่สัญญาบอกแล้วว่า กับสหมงคลฟิล์มเนี่ยเฉพาะภาพยนตร์ไทย และกับเมืองนอก เค้าสามารถไปเล่นได้เลย “จริงๆ สัญญาของเราครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ ทั้งหมดอยู่ในสัญญาของเรา สัญญาของเราคือทั้งโลก หากจะไปทำอะไร เค้าต้องขออนุญาตทางเราก่อน ครั้งที่แล้วที่แถลงข่าวก่อนหน้านี้คือ ผมทราบข่าวจากอินเทอร์เน็ตว่า เค้าไปแสดงหนังต่างประเทศเรื่อง Fast 7 ผมก็ดีใจกับเค้าด้วย มีคนติดต่อเค้าไปเล่น ผมก็ดีใจกับเค้า เรายังไม่ได้ถามเค้า แต่คืนนั้นทางผมก็คิดว่า เราก็คิดว่าเราจะทำยังไงดี ซึ่งเค้าเองก็ไม่ติดต่อหาเรามาสักที ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมาเราเลยเชิญทุกคนมาร่วมงานแถลงข่าว นั่นผมเป็นคนให้ไปเฉยๆ ให้ไปอย่างสบายใจ ไม่ใช่ว่าเค้ามีสิทธิ์ ซึ่งจริงๆ จา พนม ต้องขอทางเราก่อน แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการขอ เค้ากลับโนติสกลับมาหาเราว่า เราไม่มีสัญญากันแล้ว”

ทำไมเค้าถึงยื่นโนติสมาว่าเราไม่มีสัญญา สัญญามันหมดหรือว่ายังไง “สัญญามันเพิ่งต่อ เค้าพูดมาได้ยังไงไม่รู้ ผมเลยต้องลุกขึ้นมาคุยกับทุกคนให้เข้าใจ สัญญาที่ต่อจริงๆ คือ สัญญาที่ต้องให้ทางสหมงคลฟิล์มดูแลทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งในวันที่ต่อสัญญา เค้ามาขอว่าเค้าจะขอรับงานโฆษณาเอง เค้ามากับ พันนา และภรรยา เรามาคุยกัน 4 คนที่นี่ เราให้ คุณพันนา พูดต่อดีกว่าว่าในวันนั้นมีการพูดจากันยังไงบ้าง”

พี่พันนา กล่าวต่อ”คือจริงๆ บรรยากาศในวันนั้นเป็นการพูดคุยกันแบบสบายๆ ซึ่งทางจาเอง ก็ทราบอยู่แล้วว่าสัญญานั้นได้ถูกส่งไปแล้วที่สุรินทร์ ซึ่งเค้ามา เค้าก็รับรู้” พี่ปรัช เสริม “สัญญาไม่ใช่ส่งไปเมื่อเดือน ก.ค. เรามีการส่งไปให้ก่อนล่วงหน้า 2 เดือนแล้ว” พี่พันนา กล่าวต่อ “ในวันนั้นเค้าก็มาพร้อมกับภรรยา เค้าก็บอกว่าในสัญญาใหม่ เค้าอยากรับงานโฆษณาเอง เค้าจะรับได้มั้ย ซึ่งเสี่ยให้โอกาสและบอกให้รับได้เลย ตัดสินใจเองได้เลย เรื่องเงินเรื่องทองก็รับได้เลย

แปลว่าตอนนี้ที่ จา พนม รับปากเล่นหนังกับฮอลลีวูดนี่หมายถึง จา พนม ละเมิดสัญญากับทางสหมงคลฟิล์มถูกมั้ย เสี่ยเจียง กล่าว “ถูก” พี่พันนา กล่าวเสริม “เพียงแต่เสี่ยเคยเกริ่นกับผมว่า อยากให้จาไปและจะปล่อยให้เค้าเป็นอิสระ ให้เค้าเลือกรับหนังต่างประเทศได้เลย” ผิดสัญญาแล้วทางเสี่ยจะทำยังไงต่อไป “เราก็คงจะส่งเรื่องโนติสไปตามส่วนที่เกี่ยวข้อง และบริษัทต่างประเทศ” เสี่ยเจียง กล่าว และในกรณีที่ จา พนม อ้างว่า สัญญาที่เซ็นกับเราไม่มีความเป็นธรรม เสี่ยว่ายังไง “จริงๆ มันเป็นเรื่องของเค้า ก็ต้องสู้กันที่ศาลว่าสัญญาเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม บริษัทปฏิบัติตามสัญญาถูกต้องทุกประการและให้มากกว่าในสัญญาด้วย”

ประเด็นที่ จา พนม ยื่นโนติสมาที่สหมงคลฯ “เค้าหาว่าเราไม่ส่งสัญญาให้ ซึ่งเรามีใบเซ็นรับทุกอย่างซึ่งเราส่งไปที่สุรินทร์ ซึ่งเค้าย้ายที่อยู่ แต่เค้าไม่แจ้งเรา เราเซ็นที่สหมงคลฯ แต่สำเนาเราส่งไปที่ที่อยู่ที่สุรินทร์ ผลประโยชน์ที่เราให้นอกเหนือจากที่ตกลง มากมายมหาศาล เมื่อเราได้ประโยชน์จากองค์บาก 1 และต้มยำกุ้ง 1 จริงๆ เราไม่ต้องให้ก็ได้ แต่เรามาปรึกษากันแล้ว เรามาคุยกับปรัชญา และพันนา ว่าเราแบ่งให้จาหน่อย ซึ่งเราก็มีการแบ่งให้จาไปมากกว่าที่เราจะพูดได้ เราไม่เคยทำอะไรที่ไม่เป็นธรรม คุณเห็นผมมา 30 – 40 ปีแล้ว ผมไม่เคยรังแกใคร เราได้แต่ให้”

เสี่ยได้โนติสมาจากทาง จา ทางเราจะทำยังไง ฟ้องมั้ย จะดำเนินการอย่างไร “เราคงต้องว่าไปตามทนายแนะนำ เพราะเรายกเรื่องทั้งหมดไปที่ทนายแล้ว เราพร้อมที่จะไปสู้กันในศาล” เสี่ยไม่กลัวผลกระทบต่อหนังเรื่องต้มยำกุ้ง 2 ที่กำลังจะฉายเหรอ “คุณต้องคิดว่า ผมพยายามทำต้มยำกุ้ง 2 ขนาดไหน ผมลงทุนทำทั้งหมดให้ทันวันที่ 23 ต.ค.นี้ เพื่อให้เมืองไทยและเมืองจีน ฉายพร้อมกัน และเป็นครั้งแรก ซึ่งที่เมืองจีน จะประกาศฉาย 3,000 โรง พร้อมกันกับเมืองไทย เราทำแบบนี้เพื่อกันไม่ให้แผ่นผีออกมา ผมว่าเรื่องนี้ไปฉายที่ประเทศจีน 3,000 โรง ชื่อเสียงที่คุณจาได้รับคงมากมายมหาศาล”

หากพูดถึงกรณี จา พนม ว่าน้อยใจเสี่ยมั้ย ที่อยู่กับเสี่ยมาตั้งนานแล้วไม่เห็นไปฮอลลีวูด เสี่ยกล่าวว่า ถ้าผมจะเอาจาไปฮอลลีวูดนะก็ทำได้ แต่เราเลือกบทที่ดีที่สุดสำหรับเค้า

เมื่อครั้งที่บริษัทฯ ทำหนังกับ New Line เรื่อง Rush Hour ภาค 3 เค้าก็เคยติดต่อจา ให้มาเล่นกับ เฉินหลง เราก็โอเค แต่ส่งบทให้ผมดูหน่อย พอดูบท จาเป็นผู้ร้าย ผมจะยอมยังไง ผมไม่ยอมถ้าให้จาไปเล่นเป็นผู้ร้าย หรือถ้ามีพระเอก และให้จาเป็นพระรอง อันนั้นไม่เป็นไรผมโอเค แต่เล่นเป็นผู้ร้ายผมไม่ยอม อย่าง หวังไป่หมิง ที่ทำยิปมัน 1 – 2 เจรจากับเราอยู่ เค้าอยากให้ ดอห์นนี่ เยน เล่นกับ จา  เค้าต้องส่งบทให้เราอ่าน ถ้าบทด้อยกว่า ยิปมัน เราก็ไม่ยอม เราต้องยกตัวพระเอกเราให้อยู่ในบทที่ดีที่สุด เพราะจาเองก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงเหมือนกัน หลายคนคงไม่เข้าใจ ที่บริษัทฯ รับหนังยาก เจรจายาก เพราะเราต้องอ่านบทดูให้เรียบร้อยก่อนที่จะปล่อยไป เราอยากให้จารับบทที่ดี และเป็นบทที่มีความสำคัญเหมาะกับเค้าให้มากที่สุด” และสำหรับเรื่องโนติส เสี่ยจะดำเนินการอย่างไรต่อ “ก็เป็นเรื่องของทนายต่อไป” เสี่ยกล่าว

ด้าน ปรัชญา ปิ่นแก้ว ในฐานะที่สร้างเค้ามารู้สึกอย่างไรบ้าง “จริง ๆ มันก็เป็นสิ่งที่ดี กับการที่จาเค้าไปเล่นหนังฮอลลีวูด ผมเห็นด้วย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันเป็นเรื่องของสัญญา คือ การเซ็นสัญญาเนี่ย จะเป็นลักษณะร่วมมี พันนา จา ผม และเสี่ยเจียง รวมกันไว้ 4 คน ตั้งแต่ตอนทำองค์บาก เพราะฉะนั้นในการเปลี่ยนแปลงสัญญา ทุกคนต้องรับรู้ทั้งหมด กับจา ผมก็คิดว่าเสี่ยเค้าทำถูกต้อง ที่ให้จารับงานทางด้านโฆษณาเอง แต่พอมีโนติสจากจามาแล้วผิดข้อสัญญาบางข้อ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของทนาย” พี่ปรัช กล่าว

จากที่ทางสหมงคลฯ บอกว่าจะมีการส่งโนติสไปทางบริษัทต่างประเทศ มีกำหนดเวลามั้ยว่า ให้เวลานานแค่ไหน เสี่ยเจียง ชี้แจงต่อ “จริงๆ แล้วทางบริษัทเรายังไม่ได้ยื่นโนติสไป วันนี้เราจะแถลงข่าวให้ทุกคนรับรู้ก่อนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น  ผมไม่อยากเสียคำพูด ซึ่งรายละเอียดที่จะยื่นโนติสทางผมให้ทนายเป็นคนจัดการ หลักใหญ่ๆ คือ เค้ายังรับเล่นไม่ได้ เค้าต้องขออนุญาตหรือเข้ามาคุยกับทางเราก่อน เราไม่อนุญาตให้คุณถ่าย ถ้าคุณถ่ายโดยที่ไม่ขออนุญาตเราก่อน เราจะถือว่าคุณละเมิดสัญญา และจะมีการฟ้องกันต่อไป แต่ถ้าคุณเข้ามาพูดคุยและขออนุญาตเรา ก็จะอนุญาตเพราะถือว่าเรารับรู้และได้มีการพูดคุยกันแล้ว”

ทุกครั้งที่มีปัญหา พี่พันนา จะเป็นคนเข้าไป เหมือนเป็นคนกลางเสมอ เพราะว่าเป็นคนที่อยู่กับเค้าตั้งแต่เด็ก

เคสนี้ได้คุยกับเค้ามั้ย “ก็คุยช่วงแรกๆ ผมไม่รู้รายละเอียดอื่นๆ ตอนแรกผมดีใจที่ว่า เสี่ยเปิดโอกาสให้เค้าได้แสดงภาพยนตร์ต่างประเทศ เค้าจะได้ไปทำอะไรที่เค้าฝันเอาไว้ ตอนที่มาคุยกับเสี่ย ที่เสี่ยให้โอกาสให้ไปรับงานโฆษณา ผมยังหันไปหายิ้มแล้วบอกว่า จายินดีด้วย ตอนนั้นเราก็อยู่ในห้องเสี่ยด้วยกัน แล้วต่อมาผมได้ยินเสี่ยนัดคุยเรื่องทำหนัง แล้วเสี่ย ก็เกริ่นว่า เรื่องนี้ต่อไปไม่ปิดกั้นเรื่องต่างประเทศ กับจาดีกว่า ปล่อยจาไปเป็นอิสระดีกว่า เสี่ยแกก็เคยเปรยๆ กับผม ผมเลยโทรหาจา แต่ไม่รับสายตลอด ว่าจะชวนมาเจอเสี่ยหน่อย แต่ก็ไม่รับสายจนเสี่ยแถลงข่าววันนี้

แล้วจากนี้โปรเจกต์ของสหมงคลฟิล์มฯ กับจา ที่จะทำร่วมกันต่อจากต้มยำกุ้ง 2 ยังมีเดินหน้าอยู่มั้ย อย่างภาพยนตร์ที่จาได้เล่นกับ ดอล์ฟ ลันด์เกรน โปรเจกต์ที่เคยแถลงข่าวไป ยังเดินหน้าเหมือนเดิมมั้ย “มันก็ถ่ายไปแล้ว เราก็ยังทำไป ไม่เป็นไร เราไม่ได้ไม่พอใจจา นี่เราก็ว่าไปตามสัญญาให้ถูกต้องแค่นั้นเอง ถ้าเค้าเข้าใจในลักษณะงาน เค้าเข้ามาคุย เราไม่จำเป็นต้องเคลียร์ เราไม่ต้องเคลียร์อะไร เค้าบอกจะไปเล่นหนังต่างประเทศ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตามหลักการแล้ว ทางต่างประเทศ ต้องคุยกับเราก่อน แต่ถ้าจะไม่มาคุยไม่ได้”เสี่ยกล่าวทิ้งท้ายก่อนปิดการแถลงข่าว

Leave a comment